บ้านดีมีดาวน์ รัฐสนับสนุน 5 หมื่น กระตุ้นตลาดอสังหาฯ

 “บ้านดีมีดาวน์” รัฐสนับสนุน 50,000 บาท

“บ้านดีมีดาวน์” อีกหนึ่งมาตรการจากรัฐบาลเพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยรัฐจะสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระผ่อนดาวน์ โดย Cash Back ให้คนละ 50,000 บาท เพียง 100,000 รายที่ลงทะเบียนได้เท่านั้น โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.2562 เวลา 08.00 น. จนถึง 31 มี.ค.2563 ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรบ้าง เดอะ พณา รวบรวมมาให้แล้วค่ะ

1. คุณสมบัติของผู้เข้าร่วม

(1) มีสัญชาติไทย
(2) คุณต้องอยู่ในระบบภาษีสรรพากร โดยมีรายได้ในปี 2561 ไม่เกิน 1.2 ล้านบาท หรือเดือนละ 100,000 บาท
(3) การกู้ร่วมจะดูรายได้ของผู้กู้หลักเท่านั้น
(4) จะต้องเป็นการกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมใหม่จากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรร
(5) จะเป็นการซื้อบ้านหลังที่เท่าไรก็ได้ ราคาเท่าใดก็ได้

หมายเหตุ : คุณจะต้องได้รับการอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัย จากสถาบันการเงินและจดจำนองตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.2562 จนถึงวันที่ 31 มี.ค.2563

 

 

 

 

 

2. การลงทะเบียน 5 ขั้นตอน

บ้านดีมีดาวน์ จะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.2562 เวลา 08.00 น. จนถึง 31 มี.ค.2563 โดยมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้

(1) ผู้กู้หลักลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์www.บ้านดีมีดาวน์.com(คนละ 1 สิทธิ์ หรือ 1 บัตรประชาชนต่อ 1 สิทธิ์)

(2) กรณีที่คุณผ่านเกณฑ์คุณสมบัติของโครงการฯ คุณจะได้รับ SMS (ครั้งที่ 1) โดยคุณนำ SMS มาแสดงกับ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือสถาบันการเงินอื่นๆ พร้อมเอกสารประกอบการยื่นขอสินเชื่อ เพื่อกู้ซื้อบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ห้องชุด และอาคารพาณิชย์ สำหรับที่อยู่อาศัยสร้างใหม่เท่านั้น พร้อมโอนกรรมสิทธิ์จากผู้ประกอบการจัดสรร ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563

(3) ผู้กู้หลักได้รับการอนุมัติ และทำนิติกรรมจดจำนอง พร้อมโอนกรรมสิทธิ์กับ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือสถาบันการเงินอื่นๆ ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน 62 ถึง 31 มีนาคม 63

หมายเหตุ : สำหรับผู้ที่ได้รับการอนุมัติ และทำนิติกรรมจดจำนอง พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.62-11 ธ.ค.62 ต้องลงทะเบียนตามขั้นตอนที่ 1 และติดต่อธนาคารเพื่อให้ความยินยอมในการส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)

(4) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือสถาบันการเงินอื่นๆ ส่งข้อมูลผู้กู้หลัก เพื่อตรวจสอบด้านคุณสมบัติการขอสินเชื่อ หลังจากจดทะเบียนนิติกรรม พร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้ว

(5) คุณจะได้รับ SMS (ครั้งที่ 2) เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงิน 50,000 บาท โดย ธนาคารจะโอนเงิน 50,000 บาท เข้าบัญชีเงินฝากของผู้กู้หลักที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน ผ่านระบบพร้อมเพย์

3. สินเชื่อบ้าน 3 แบงก์รัฐ

แต่การซื้อบ้านนั้นย่อมตามมาด้วยภาระระยะยาวในการผ่อนชำระ การได้ส่วนลดจากมาตรการรัฐอย่างเดียวคงไม่พอ เพื่อเอาให้คุ้มค่าสุดๆ ลองดูว่าในแบงก์รัฐ 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน  และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ยื่นกู้แบงก์ไหนดี  คุ้มค่าและเหมาะกับตัวเรามากที่สุด

(1) ธนาคารกรุงไทย

ธนาคารออกแคมเปญสินเชื่อ บ้านกรุงไทย สุขใจถ้วนหน้า  โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมประเมินราคา และ ค่าธรรมเนียมยื่นกู้  คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.50%  ปีที่ 2 และ 3 คิดดอกเบี้ย 3.5% เฉลี่ยดอกเบี้ย 3 ปี 2.5%

โดยลูกค้าในกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ ประกอบด้วยแพทย์ ผู้พิพากษาและอัยการ นักบิน อาจารย์มหาวิทยาลัยระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์ขึ้นไป และพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย ยังสามารถเลือกผ่อนชำระล้านละ 1,000 บาทต่อเดือน

สำหรับลูกค้า 1,000 รายแรกที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อและจดจำนองตามเงื่อนไขโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ธนาคารยังช่วยแบ่งเบาภาระ โดยช่วยผ่อนรายละ 5,500 บาท  ส่วนลูกค้ารายที่ 1,001-10,000  ธนาคารลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก  0.10% ต่อปี ลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนขอรับสิทธิในเว็บไซต์  “บ้านดีมีดาวน์” ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562  เป็นต้นไป

(2) ธนาคารออมสิน

การโครงการสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ “ล้านละ 10 บาท” นั้น ธนาคารยังเข้มงวดปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย และทำตามเกณฑ์แอลทีวี (LTV)  พร้อมประเมินความสามารถในการผ่อนชำระหลังดอกเบี้ยลอยตัว   จึงไม่กังวลว่าจะเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ตามมา ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อบ้าน 2.5 หมื่นล้านบาท ภายใน 3เดือน  และอาจพิจารณาเพิ่มวงเงินตามความต้องการของประชาชน

(3) ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ธนาคารช่วยเหลือลูกค้า โดยนำสินเชื่อที่อนุมัติไปก่อนหน้านี้ 3 วันมาอนุมัติใหม่เมื่อวันที่ 27 พ.ย. วงเงินรวม 4,300 ล้านบาท จำนวน2,200 ราย เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้  สำหรับมาตรการสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ 2.5% นาน 3 ปีวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท มีคำขอสินเชื่อเข้ามาแล้ว1.2  หมื่นล้านบาท อนุมัติไปแล้ว 7 พันล้านบาท

4. เทียบดอกเบี้ย 3 แบงก์รัฐ เลือกที่ไหนดี

เมื่อเทียบกัน 3 ธนาคารรัฐแล้ว  จะพบว่าถ้าดูเฉพาะดอกเบี้ยในปีแรก  ของธนาคารออมสินจะคิดดอกเบี้ยต่ำที่สุด 0.01% เท่านั้น รองลงมาคือธนาคารกรุงไทยดอกเบี้ยปีแรก 0.5%  และ ธอส. ดอกเบี้ยคงที่ 2.5%

การเลือกดอกเบี้ยต่ำๆ ในปีแรก จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการผ่อนชำระเกินจำนวนเงินที่ธนาคารกำหนดให้ผ่อนชำระ  เช่น ธนาคารกำหนดให้ผ่อนชำระ 8,000 บาท  แต่เราอาจจะเลือกจ่ายเกินมากกว่า 8,000 บาท  ซึ่งเงินที่เกินก็จะถูกนำไปคำนวณลดต้นลดดอก  ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยทำให้สามารถผ่อนบ้านได้หมดเร็ว

แต่ถ้าเทียบดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี  จะพบว่าดอกเบี้ยเฉลี่ยของ ธอส. และ กรุงไทย จะต่ำที่สุด 2.5%  ส่วนของออมสินดอกเบี้ยจะต่ำมากในปีแรก  แต่เฉลี่ย 3 ปี  จะเท่ากับ 2.903%  ดังนั้นหากใครที่อาจผ่อนเรื่อยๆ ไม่เพิ่มเงินผ่อนในแต่ละเดือน  หรือไม่ได้ต้องการโปะเงินก้อนในปีแรก  อาจต้องพิจารณาที่ตัวของดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี  ที่ไม่สูงมากนัก

แต่สุดท้ายการตัดสินใจคงอยู่ที่ตัวเราเอง นอกจากจะใช้สิทธิเงินคืนจากบ้านดีมีดาวน์ บวกกับสิทธิลดค่าฟรี-ค่าจดจำนองบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาทแล้ว  ลองเปรียบเทียบตามความเหมาะสมของเราเองว่าจะพิจารณายื่นของสินเชื่อกับแบงก์ไหน  และต้องเตรียมความพร้อมให้ครบ  โดยเฉพาะเอกสารแสดงรายได้ที่สม่ำเสมอ  เพื่อให้ธนาคารมั่นใจว่าเรามีรายได้มาจ่ายเงินกู้คืนแน่นอน

ขอบคุณข้อมูล bangkokbiznews.com / businesstoday.co.th